รายงานการประชุม
รายงานการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ 1/2568
รายงานการประชุมคณะกรรมการสภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ครั้งที่ 1/2568
วันศุกร์ที่ 17 เดือนมกราคม พ.ศ.2568
การประชุมในรูปแบบผสมผสานกับระบบประชุมทางไกล Web Conference
ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
เนื้อหารายงานการประชุม
รายงานการประชุมคณะกรรมการสภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘
วันศุกร์ที่ ๑๗ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๘
การประชุมในรูปแบบผสมผสานกับระบบประชุมทางไกล Web Conference
ณ ห้องประชุมชั้น ๘ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
-------------------------------
ผู้มาประชุม
๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล ประธาน
๒. ศาสตราจารย์ ดร.จินตนา สรายุทธพิทักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๓. รองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี รุจกรกานต์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๔. รองศาสตราจารย์ ดร.วิลาส พุ่มพิมล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๕. รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวงศ์ พูนพล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๖. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย มงคลเกียรติศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๗. รองศาสตราจารย์ ดร.นิราวรรณ กุนัน กรรมการผู้แทนคณะ
๘. รองศาสตราจารย์ ดร.
๙. เรวณี ชัยเชาวรัตน์ กรรมการผู้แทนคณะ (ประชุมออนไลน์)
๑๐. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติพร โนนคู่เขตโขง กรรมการผู้แทนคณะ
๑๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีร์ธวัช สิงหศิริ กรรมการผู้แทนคณะ
๑๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุริสา จัตุชัย กรรมการผู้แทนคณะ
๑๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สาวิตรี บุญมี กรรมการและเลขานุการ
๑๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัฒนาภรณ์ ชัยประเสริฐ ผู้ช่วยเลขานุการ
ผู้ไม่มาประชุม (ติดราชการ/ติดภารกิจ)
๑. รองศาสตราจารย์ ดร.เกยูร ดวงอุปมา
๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศริญญา ชาญสุข
ผู้เข้าร่วมประชุม
๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนัญฎา สินชื่น รองคณบดีคณะวิทยาการจัดการ
๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤตวรรณ คำสม รองคณบดีคณะครุศาสตร์
๓. ดร.ปิยพร แผ้วชำนาญ รองผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการฯ
๔. นางสาวพัชรีย์ ทองสมบัติ นักวิชาการศึกษา
๕. นางสาววรัญชนา พฤกษติกุล เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
เริ่มประชุม เวลา ๐๙.๐๐ น.
ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
ประธานกรรมการสภาวิชาการ กล่าวเปิดการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑/๒๕๖8 วันศุกร์ที่ 17 เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖8 สวัสดีคณะกรรมการสภาวิชาการทุกท่าน และขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุมสภาวิชาการในวันนี้ แนะนำกรรมการสภาวิชาการ
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องรับรองรายงานการประชุม
เลขานุการสภาวิชาการ นำเสนอรายงานการประชุมคณะกรรมการสภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ ให้คณะกรรมการสภาวิชาการพิจารณาเพื่อรับรองรายงานการประชุม
มติที่ประชุม คณะกรรมการสภาวิชาการพิจารณาแล้วรับรองรายงานการประชุม สภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗
ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องสืบเนื่อง
รายงานการติดตามการดำเนินงานตามมติสภาวิชาการ
๓.๑ การเสนอเพื่อพิจารณาการให้ปริญญาบัตรและประกาศนียบัตรบัณฑิต
ในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ มติที่ประชุมสภาวิชาการเห็นชอบการให้ปริญญาบัตร ภาคการศึกษาที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ มีนักศึกษาที่เรียนครบหลักสูตรทั้งหมด จำนวน ๑๑๑ คน แบ่งเป็น ระดับปริญญาตรี จำนวน ๘๔ คน ระดับปริญญาโท จำนวน ๑๖ คน ระดับปริญญาเอก จำนวน ๑๑ คน ได้ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันเสาร์ที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
๓.๒ การเสนอเพื่อพิจารณาหลักสูตรการศึกษา
ในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๙/๒๕๖๗ วันที่ ๒๔ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ มติที่ประชุมสภาวิชาการเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงตามวงรอบ จำนวน ๕ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตร ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาเครื่องกล หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ๒)หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ (๕ปี) หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๓ ๓)หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๔)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๕)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ชีวภาพ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ และเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงเล็กน้อย จำนวน ๓ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ ๒)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๔ ๓)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการเงิน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ บัดนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันเสาร์ที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๔ หลักสูตร คือ ๑) หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาเครื่องกล หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ๒) หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๓)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๔)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ชีวภาพ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ และหลักสูตรปรับปรุงเล็กน้อย จำนวน ๓ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ ๒)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๔ ๓)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการเงิน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ มติที่ประชุมสภาวิชาการเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงตามวงรอบ จำนวน ๑ หลักสูตร คือ ๑) หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจและระบบสารสนเทศ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ และเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงเล็กน้อย จำนวน ๒ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗ ๒)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๔ บัดนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๗ วันเสาร์ที่ ๒๑ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มติที่ประชุม รับทราบ
ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องเสนอเพื่อทราบ
ไม่มี
ระเบียบวาระที่ ๕ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา
๕.๑ การเสนอเพื่อพิจารณาการให้ปริญญาบัตร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒(๓) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ กำหนดให้สภาวิชาการ มีอำนาจและหน้าที่พิจารณาเสนอการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และประกาศนียบัตร
ด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนได้จัดทำบัญชีรายชื่อนักศึกษาที่เรียนครบหลักสูตร มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ เห็นควรสำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรและปริญญาบัตร ภาคการศึกษาที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ ซึ่งนักศึกษาดังกล่าวผ่านการพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติจากสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน และผ่าน การรับรองจากคณะกรรมการประจำคณะ ตลอดจนผ่านการรับรองความประพฤติจากกองพัฒนานักศึกษาเรียบร้อยแล้ว จึงนำเรียนเสนอกรรมการสภาวิชาการ เพื่อโปรดพิจารณาการให้ปริญญาบัตร สรุปได้ ดังนี้
ระดับปริญญาตรี จำนวน ๙๖ คน
ระดับประกาศนียบัตร จำนวน ๔ คน
ระดับปริญญาโท จำนวน ๒๖ คน
ระดับปริญญาเอก จำนวน ๑๐ คน
รวม ๑๓๖ คน
มติที่ประชุม เห็นชอบการให้ปริญญาบัตร ภาคการศึกษาที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติการให้ปริญญาต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
๑. หน้า ๑๙๗-๑๙๘ ตรวจสอบลิ้งผลงานวิทยานิพนธ์ที่มีการเผยแพร่ให้สอดคล้องกับที่นำมาขอสำเร็จการศึกษา
๒. ขอให้ตรวจสอบสถานการณ์เผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาให้เป็นปัจจุบัน
๓. ขอให้นำผลการตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism) ของนักศึกษาเสนอให้สภาวิชาการได้ทราบ
๕.๒ การเสนอเพื่อพิจารณาหลักสูตรการศึกษา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอเสนอเพื่อพิจารณาหลักสูตรการศึกษา หลักสูตรปรับปรุง (ครบวงรอบ) จำนวน ๑ หลักสูตร หลักสูตรใหม่ จำนวน ๑ หลักสูตร และปิดหลักสูตรจำนวน ๒ หลักสูตร
๕.๒.๑ การพิจารณาหลักสูตรปรับปรุงตามวงรอบ
๕.๒.๑.๑ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษาหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘
อาจารย์ ดร.พงศธร สุกิจญาณ นำเสนอ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ปรับมาจากหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๓ ปรับปรุงตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.๒๕๖๕ จากการวิเคราะห์ความต้องการของ stakeholders ได้ผลลัพธ์การเรียนรู้จำนวน ๖ ข้อ ดังนี้ PLO๑ ประยุกต์ความรู้ทางหลักการพลศึกษาและสุขศึกษา ในการปฏิบัติของสาขาวิชาชีพได้อย่างถูกต้อง PLO๒ วิพากษ์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและการจัดการเรียนรู้พลศึกษาและ สุขศึกษา เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพได้ PLO๓ ออกแบบและสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพลศึกษาและสุขศึกษาได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน PLO๔ ปฏิบัติการวิจัยทางพลศึกษาและสุขศึกษาการใช้โปรแกรมวิเคราะห์สถิติที่ใช้ในการวิจัย การเขียนรายงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง PLO๕ สื่อสารและนำเสนองานวิจัยทางพลศึกษาและสุขศึกษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ รู้ดิจิทัล รู้เท่าทันสื่อ และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ PLO๖ มีบุคลิก ลักษณะที่ดี น่าเชื่อถือ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม โครงสร้างหน่วยกิตตลอดหลักสูตร ๓๖ หน่วยกิต ประกอบด้วย หมวดวิชาเฉพาะ จำนวน ๒๔ หน่วยกิต แบ่งเป็นวิชาบังคับ ๑๘ หน่วยกิต วิชาเลือก ๖ หน่วยกิต วิทยานิพนธ์ ๑๒ หน่วยกิต และหมวดวิชาเสริม ไม่นับหน่วยกิต
กรรมการสภาวิชาการมีข้อเสนอแนะดังนี้
๑. อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ควรส่งเสริม สนับสนุนหรือโน้มน้าวให้นักศึกษาเผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์ในรูปแบบของบทความวิจัย เพื่อประโยชน์ของนักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษา
๒. หน้า ๑๓ การเขียน YLOs ข้อ 1.2 และ 1.3 ควรปรับคำที่สามารถวัดได้ เช่น ปรับคำว่า “มีความรู้ความเข้าใจ” เป็น “สามารถอธิบาย” และ YLO ข้อ 1.4 ระบุว่า “สามารถวิเคราะห์และวิพากษ์ งานวิจัยเกี่ยวกับพลศึกษาและสุขศึกษาได้อย่างถูกต้อง” สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อาจจะยังไม่สามารถวิเคราะห์และวิพากษ์งานวิจัยได้ เนื่องจากยังไม่ผ่านการเรียนเขียนรายงานการวิจัย ซึ่งจะได้เรียนในชั้นปีที่ 2
๓. YLO ข้อ 2.3 ระบุว่า “มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ” ควรปรับคำเป็น “การแสดงออกของการมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ” เพื่อการวัดและประเมินผลที่ชัดเจน
๔. ควรเพิ่ม YLO ที่สนับสนุนให้นักศึกษาสามารถเขียนบทความที่ได้จากงานวิจัยของตนเองได้
๕. YLO ข้อ 1.2 ระบุว่า “มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ พระราชบัญญัติการศึกษา” เมื่อตรวจสอบรายวิชา คำอธิบายรายวิชา ไม่พบว่ามีการผลักดันให้เกิด YLO ข้อ 1.2 รวมไปถึง PLO6 จรรยาบรรณนักวิจัยด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มได้ในรายวิชาวิทยานิพนธ์
๖. ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณา PLO6 ที่ระบุว่า “มีจรรยาบรรณวิชาชีพ จรรยาบรรณนักวิจัย มีบุคลิกลักษณะที่ดี น่าเชื่อถือ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม” ให้มีความสอดคล้องกับประเภทผลลัพธ์การเรียนรู้ในหน้า 14 และควรแยกเป็น PLO๖ เป็น 2 ข้อ
๗. หน้า ๓๗ ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างรายวิชากับมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2565 ให้ระบุเฉพาะความรับผิดชอบหลัก(จุดดำ) เท่านั้น
๘. หน้า 14 ตาราง 1.6.2 ความสอดคล้องระหว่างผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหลักสูตร ให้เพิ่มหมายเหตุระบุความหมายของตัวอักษร V, M, I, PH, SH1, SH2, SH3
๙. ควรเพิ่มข้อความที่เกี่ยวกับการวัดและประเมินผลของแต่ละรายวิชาต่อท้ายคำอธิบายรายวิชาทุกรายวิชา และได้เสนอแนะข้อความที่ควรใช้ไว้ในเล่มหลักสูตรที่คืนให้ไปแล้ว ให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณา
๑๐. รายวิชาวิทยานิพนธ์ควรเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับการเผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์ตามหลักจริยธรรมนักวิจัย และขอให้ตรวจสอบ PLOs ทุกข้อว่ามีรายวิชาที่ผลักดันครบ PLOs หรือไม่
๑๑. ภาษาอังกฤษได้เสนอแนะไว้ในเล่มหลักสูตรที่ส่งคืนกลับไปแล้ว ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรให้พิจารณาแก้ไข และควรแบ่งหน่วยกิตของรายวิชาวิทยานิพนธ์ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ ๑ เป็นการเรียนการสอนเพื่อให้ได้บทที่ 1-3 และส่วนที่ 2 คือบทที่ 4-5 และการเผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์
๑๒. ขอให้ตรวจสอบและกำชับ ติดตามผลงานวิทยานิพนธ์ของอาจารย์ประจำหลักสูตรให้เป็นไปเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ.2565 พบว่าเมื่อเปิดจัดการเรียนการสอนไปได้ 1 ปีการศึกษาจะมีผลงานวิทยานิพนธ์ไม่อยู่ในวงรอบ 5 ปี
๑๓. รายละเอียดในเล่มหลักสูตรระบุมีการนำนักศึกษาไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ขอให้เพิ่มในแผนงบประมาณการดำเนินงานของคณะด้วย เนื่องจากถ้าไม่ระบุในแผนงบประมาณของคณะเมื่อถึงเวลาอาจจะไม่มีงบประมาณเพื่อพานักกศึกษาไปได้
๑๔. ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณาความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ของหลักสูตร PLOs และYLOs ให้ครบทุกประเด็น และใน YLOs ไม่พบข้อความที่ผลักดันวัตถุประสงค์ด้าน การสื่อสาร การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
๑๕. ขอให้พิจารณาปรัชญาของหลักสูตรว่าหลักสูตรได้มีส่วนในการพัฒนาผู้เรียนและสังคมอย่างไรบ้าง
๑๖. วัตถุประสงค์ของหลักสูตร PLOs และYLOs ควรมีรายวิชาที่ถูกผลักดันครบทุกประเด็น
๑๗. ตารางผลลัพธ์การเรียนรู้รายปี YLOs ควรเพิ่มคอลัมน์การวัดและการประเมินผล และตัวชี้วัดที่ระบุว่าการจัดการเรียนการสอนจะบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ได้อย่างไร
๑๘. หน้า ๓๓ ตารางการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร ควรปรับรายละเอียดในคอลัมน์การสอนที่ใช้พัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ และคอลัมน์การวัดและประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ ให้มีความแตกต่างกัน เนื่องเป็น PLO คนละข้อรูปแบบการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลไม่ควรเหมือนกัน
๑๙. หน้า 42 หมวด 8 การประกันคุณภาพหลักสูตรขอให้ปรับรายละเอียดฉบับล่าสุด
๒๐. หน้า 45 หมวดที่ 9 การประเมิน และปรับปรุงการดำเนินการของหลักสูตร ข้อ 1.1 การประเมินกลยุทธ์การสอน การระบุในข้อ 1.1.2 การสอบนักศึกษา ควรขยายข้อความให้สื่อถึงการประเมินการเรียนการสอนในห้องเรียน
๒๑. หน้า 106-107 ตารางเปรียบเทียบหลักสูตรเดิมกับหลักสูตรใหม่ พบว่า รายวิชาส่วนมากเป็นการปรับชื่อวิชาและรหัสวิชา แต่พบว่ามีการปรับคำอธิบายรายวิชาน้อยมาก จึงขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้ตรวจสอบความต้องการของผู้มีส่วนได้และปรับเพิ่มข้อความให้เป็นไปตามสมรรถนะที่ได้ระบุไว้ใน วัตถุประสงค์ของหลักสูตร และ PLO
มติที่ประชุม เห็นชอบการปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสภาวิชาการ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๒.๒ การพิจารณาหลักสูตรใหม่
๕.๒.๑.๑ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๘
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัชฎาภรณ์ แสงทามาตย์
นำเสนอ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ พัฒนาหลักสูตรใหม่เป็นไปตามตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2565 โดยหลักสูตรประกอบด้วยวิชาเอกจำนวน ๔ วิชาเอก คือ 1.การจัดการทรัพยากรมนุษย์ 2.การสื่อสารเพื่อธุรกิจ 3.การเป็นผู้ประกอบการ 4. เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ จากการวิเคราะห์ความต้องการของ stakeholders ได้ผลลัพธ์การเรียนรู้ ประกอบด้วย PLO จำนวน 16 PLO ของวิชาแกน PLO ที่ 1-4 PLO ที่ 5-7 เป็นของวิชาเอกการจัดการทรัพยากรมนุษย์ PLO ที่ 8-10 เป็นของวิชาเอกการสื่อสารเพื่อธุรกิจ PLO ที่ 11-13 เป็นของวิชาเอกการเป็นผู้ประกอบการ และ PLO ที่ 14-16 เป็นของวิชาเอกเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 1. มีความรู้ด้านการบริหารธุรกิจ และสามารถนำความรู้ไปบริหารงานวางแผนกลยุทธ์ จัดการทรัพยากรทางธุรกิจ และเป็นผู้ประกอบการเริ่มต้นได้ 2.มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือทางธุรกิจในการวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ทางธุรกิจ เพื่อการตัดสินใจภายใต้สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ 3.มีทักษะการสื่อสาร นำเสนอด้วยภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ และใช้เทคโนโลยีในการออกแบบและผลิตสื่อได้ 4.เป็นผู้ปฏิบัติงานอย่างมีคุณธรรม มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม 5.เป็นนักบริหาร นักวิเคราะห์ นักวางแผน นักการสื่อสาร และเป็นผู้ประกอบการที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออก แก้ไขปัญหา เฉพาะหน้า พร้อมพัฒนาตนเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ ปรับตัวในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ โครงสร้างหน่วยกิตตลอดหลักสูตร ๑๒๐ หน่วยกิต ประกอบด้วย หมวดวิชาศึกษาทั่วไป จำนวน ๒๔ หน่วยกิต หมวดวิชาเฉพาะ จำนวน ๙๐ หน่วยกิต แบ่งเป็นวิชาแกน ๒๗ หน่วยกิต วิชาเอก ๖๓ หน่วยกิต หมวดวิชาเลือกเสรี ๖ หน่วยกิต
กรรมการสภาวิชาการมีข้อเสนอแนะดังนี้
๑. หน้า ๒ ข้อ ๕ รูปแบบของหลักสูตร ควรปรับจากหลักสูตรระดับปริญญาตรี ๓.๕ ปี เป็น ๔ ปี และปรับข้อความเป็น “ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2565”
๒. หน้า ๑๖ ตารางที่ ๓ แสดงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวข้องกับหลักสูตรและสมรรถนะที่ต้องการ วิชาเอกการสื่อสารเพื่อธุรกิจ ตารางช่องความเกี่ยวข้องกับหลักสูตรได้มีการกล่าวถึงมาตรฐานวิชาชีพธุรกิจการประชุมและนิทรรศการ เมื่อพิจารณาข้อความใน PLO แล้วไม่พบการผลักดันเนื้อหาดังกล่าว
๓. ควรเพิ่มแผนการเรียนสำหรับนักศึกษาที่รับเข้าศึกษาแบบเทียบโอน
๔. ควรยุบรวม PLO เพื่อลดจำนวนข้อของ PLO และนำมาเขียนเป็น Sub PLO แทน
๕. รายวิชาทางด้านเศรษฐศาสตร์ ควรมีความร่วมมือกับ กลต.เพื่อให้ได้โควตาในการเข้าร่วมการอบรมที่จัดโดย กลต. โดยนักศึกษาที่ผ่านการอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตร
๖. หน้า ๗๗ รายวิชากฎหมายธุรกิจและการภาษีอากร ควรตัดชื่อวิชาและคำอธิบายรายวิชาให้คงเหลือเพียงกฎหมายธุรกิจ เพื่อลดความซ้ำซ้อนกับรายวิชาอื่น
๗. หน้า ๘๒ รายวิชาโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ควรรวมกับรายวิชาการใช้แอปพลิเคชันเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในยุคดิจิทัล เนื่องจากรายวิชาดังกล่าวสามารถให้นักศึกษาเข้าคอร์ดอบรมระยะสั้นได้ และรายวิชากฎหมายแรงงานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ควรเพิ่มเติมเนื้อหารายวิชาเกี่ยวกับกฎหมายการประกันสังคม
๘. หน้า ๙๔ การตลาดเบื้องต้นควรรวมกับรายวิชาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล
๙. ควรเพิ่มรายวิชาที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษา ในการสร้างธุรกิจ รวมไปถึงการสร้างธุรกิจจำลองในคณะบริหารธุรกิจเพื่อให้ผู้เรียนได้จำลองสร้างธุรกิจที่ตนเองอยากมี และยังใช้เป็นตัววัดและประเมินผล PLO ได้ด้วย
๑๐. ปรับรหัสวิชาให้มีความสอดคล้องกับการเรียนก่อนหลัง
๑๑. ควรปรับรายวิชาอินเตอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่งในงานธุรกิจ Internet of Things for Business เป็นรายวิชาเอกบังคับให้นักศึกษาทุกคนได้เรียน
๑๒. ขอเสนอแนะปรับชื่อวิชาเอกการสื่อสารเพื่อธุรกิจ ควรปรับเป็น การสื่อสารตราธุรกิจ เพื่อความทันสมัยมากขึ้น
๑๓. ในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันมีการมุ่งเน้นอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.สิทธิมนุษยชน 2.เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) 3.การดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม(ESG) จึงควรมีรายวิชาเอกเลือกที่รวมทั้ง 3 เรื่องนี้ไว้ด้วยกัน อาจใช้ชื่อวิชาเป็น Business and human right ในอนาคตมีความจำเป็นในภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก
๑๔. ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณา PLO ที่เป็นของวิชาเอกย่อยทั้ง 4 เอก เนื่องจากน้ำหนักความยากง่ายของแต่ละเอกไม่เท่ากัน เนื่องจากเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้วนักศึกษาต้องมีความรู้ความสามารถในระดับเดียวกันจึงขอให้ตรวจสอบอีกครั้ง รายละเอียดในเล่มหลักสูตรที่ส่งคืนให้
๑๕. ขอให้ตรวจสอบ YLO ให้สามารถตรวจสอบหรือระบุความรู้ความสามารถของผู้เรียนตามลำดับขั้นที่ชัดเจนมากขึ้น และใน YLO ยังขาดรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกประสบการณ์
๑๖. ขอให้ทางคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณาการระบุความรับผิดชอบหลักในตาราง KSEC และตารางรายวิชากับ PLO เพื่อให้เกิดการกระจายของความรับผิดชอบหลักในทุกด้าน
๑๗. การออกแบบรายวิชาเอกในแต่ละวิชาเอกทั้ง 4 วิชาเอก ควรมีความสอดคล้องกัน ไม่แตกต่างกันและไปในทิศทางเดียวกัน เช่น รายวิชาทางด้านภาษาอังกฤษ ควรมีทุกวิชาเอก หรือถ้าไม่มีก็ควรไม่มีในทุกวิชาเอก เพื่อไม่ให้นักศึกษาเกิดการเปรียบเทียบของรายวิชา และสมรรถนะของบัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้วควรมีสมรรถนะที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน
๑๘. ปรับปรัชญาของหลักสูตรให้ผู้อ่าน อ่านแล้วมีความเชื่อว่าหลักสูตรจะทำอะไร
๑๙. ไม่พบความร่วมมือกับเครือข่ายภายนอกที่จะสะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนเมื่อมาเรียนแล้วได้รับมาตรฐานเทียบเท่ากับหน่วยงานใด เช่น วิชาเอกทรัพยากรมนุษย์จะมีสมาคม PMAT ที่เป็นที่รู้จักในกลุ่มของกลุ่มงานบุคคลแห่งประเทศ หรือวิชาเอกการสื่อสารธุรกิจ มีสมาคมการสื่อสารการตลาดธุรกิจแห่งประเทศไทย เป็นต้น ต้องยอมรับว่าหลักสูตรต้องให้หน่วยงานที่เป็นเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์หลักสูตร จึงให้สร้างพลังหนุนจากเครือข่ายในการจัดการเรียนการสอนให้มากขึ้น
มติที่ประชุม เห็นชอบการปรับปรุงหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสภาวิชาการ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๒.๒ การเสนอเพื่อพิจารณาการปิดหลักสูตรแบบมีเงื่อนไข
๕.๒.๒.๑ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ (ปิดแบบมีเงื่อนไข)
ตามที่หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้เปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๙ เป็นต้นมา พบว่าจำนวนนักศึกษาใหม่และอัตราการคงอยู่ไม่เป็นไปตามแผน ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาตั้งแต่รหัสปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ มีนักศึกษาจำนวน ๗ คน รายละเอียดสถานะตามเอกสาร ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการใช้ศักยภาพของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จึงขอปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาบริหารทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ แบบมีเงื่อนไข โดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจะดูแลนักศึกษาทั้งด้านการจัดการเรียน การสอนและกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีคุณภาพ ตามคุณลักษณะที่หลักสูตรกำหนด จนกว่านักศึกษาจะสำเร็จการศึกษา จำนวน ๑ คน คือ รองศาสตราจารย์ ดร.สุรัชนี เคนสุโพธิ์
มติที่ประชุม เห็นชอบการปิดหลักสูตรแบบมีเงื่อนไข หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้นำเสนอ สภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๒.๒.๒ หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ
หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ปิดแบบมีเงื่อนไข)
ตามที่หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้เปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เป็นต้นมา ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาตั้งแต่รหัสปี ๒๕๖๓-๒๕๖๘ มีนักศึกษาจำนวน ๙๖ คน เนื่องด้วยจำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร คณะกรรมการบริหารหลักสูตรจึงขอปิดหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ แบบมีเงื่อนไข โดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจะดูแลนักศึกษาทั้งด้านการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีคุณภาพ ตามคุณลักษณะที่หลักสูตรกำหนด จนกว่านักศึกษาจะสำเร็จการศึกษา
มติที่ประชุม เห็นชอบการปิดหลักสูตรและมีเงื่อนไขของหลักสูตร ครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๓ การเสนอเพื่อพิจารณาการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ (การประชุมลับ)
อาศัยอำนาจตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๐ ข้อ ๑๖.๑ (๖) ให้สภาวิชาการพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์และรองศาสตราจารย์แล้วเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย และข้อ ๑๖.๒ การแต่งตั้งตำแหน่งศาสตราจารย์
โดยที่คณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ เมื่อคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ ได้สรุปผลการประเมินของผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ จึงนำเสนอต่อกรรมการสภาวิชาการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์ (รายละเอียดตามเอกสารแยกเล่ม)
มติที่ประชุม เห็นชอบผลการพิจารณาการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ จำนวน ๒ คน นำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
ระเบียบวาระที่ ๖ เรื่องอื่น ๆ
เลิกประชุมเวลา ๑๑.๔๐ น.
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘
วันศุกร์ที่ ๑๗ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๘
การประชุมในรูปแบบผสมผสานกับระบบประชุมทางไกล Web Conference
ณ ห้องประชุมชั้น ๘ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
-------------------------------
ผู้มาประชุม
๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล ประธาน
๒. ศาสตราจารย์ ดร.จินตนา สรายุทธพิทักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๓. รองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี รุจกรกานต์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๔. รองศาสตราจารย์ ดร.วิลาส พุ่มพิมล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๕. รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวงศ์ พูนพล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๖. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย มงคลเกียรติศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ประชุมออนไลน์)
๗. รองศาสตราจารย์ ดร.นิราวรรณ กุนัน กรรมการผู้แทนคณะ
๘. รองศาสตราจารย์ ดร.
๙. เรวณี ชัยเชาวรัตน์ กรรมการผู้แทนคณะ (ประชุมออนไลน์)
๑๐. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตติพร โนนคู่เขตโขง กรรมการผู้แทนคณะ
๑๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีร์ธวัช สิงหศิริ กรรมการผู้แทนคณะ
๑๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุริสา จัตุชัย กรรมการผู้แทนคณะ
๑๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สาวิตรี บุญมี กรรมการและเลขานุการ
๑๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัฒนาภรณ์ ชัยประเสริฐ ผู้ช่วยเลขานุการ
ผู้ไม่มาประชุม (ติดราชการ/ติดภารกิจ)
๑. รองศาสตราจารย์ ดร.เกยูร ดวงอุปมา
๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศริญญา ชาญสุข
ผู้เข้าร่วมประชุม
๑. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนัญฎา สินชื่น รองคณบดีคณะวิทยาการจัดการ
๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤตวรรณ คำสม รองคณบดีคณะครุศาสตร์
๓. ดร.ปิยพร แผ้วชำนาญ รองผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการฯ
๔. นางสาวพัชรีย์ ทองสมบัติ นักวิชาการศึกษา
๕. นางสาววรัญชนา พฤกษติกุล เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
เริ่มประชุม เวลา ๐๙.๐๐ น.
ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
ประธานกรรมการสภาวิชาการ กล่าวเปิดการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑/๒๕๖8 วันศุกร์ที่ 17 เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖8 สวัสดีคณะกรรมการสภาวิชาการทุกท่าน และขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุมสภาวิชาการในวันนี้ แนะนำกรรมการสภาวิชาการ
มติที่ประชุม ทราบ
ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องรับรองรายงานการประชุม
เลขานุการสภาวิชาการ นำเสนอรายงานการประชุมคณะกรรมการสภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ ให้คณะกรรมการสภาวิชาการพิจารณาเพื่อรับรองรายงานการประชุม
มติที่ประชุม คณะกรรมการสภาวิชาการพิจารณาแล้วรับรองรายงานการประชุม สภาวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗
ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องสืบเนื่อง
รายงานการติดตามการดำเนินงานตามมติสภาวิชาการ
๓.๑ การเสนอเพื่อพิจารณาการให้ปริญญาบัตรและประกาศนียบัตรบัณฑิต
ในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ มติที่ประชุมสภาวิชาการเห็นชอบการให้ปริญญาบัตร ภาคการศึกษาที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ มีนักศึกษาที่เรียนครบหลักสูตรทั้งหมด จำนวน ๑๑๑ คน แบ่งเป็น ระดับปริญญาตรี จำนวน ๘๔ คน ระดับปริญญาโท จำนวน ๑๖ คน ระดับปริญญาเอก จำนวน ๑๑ คน ได้ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันเสาร์ที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
๓.๒ การเสนอเพื่อพิจารณาหลักสูตรการศึกษา
ในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๙/๒๕๖๗ วันที่ ๒๔ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ มติที่ประชุมสภาวิชาการเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงตามวงรอบ จำนวน ๕ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตร ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาเครื่องกล หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ๒)หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ (๕ปี) หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๓ ๓)หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๔)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๕)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ชีวภาพ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ และเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงเล็กน้อย จำนวน ๓ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ ๒)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๔ ๓)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการเงิน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ บัดนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันเสาร์ที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๔ หลักสูตร คือ ๑) หลักสูตรครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาเครื่องกล หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ๒) หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๓)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ ๔)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ชีวภาพ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘ และหลักสูตรปรับปรุงเล็กน้อย จำนวน ๓ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ ๒)หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๔ ๓)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการเงิน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในการประชุมสภาวิชาการ ครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ วันที่ ๒๒ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ มติที่ประชุมสภาวิชาการเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงตามวงรอบ จำนวน ๑ หลักสูตร คือ ๑) หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจและระบบสารสนเทศ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ และเห็นชอบหลักสูตรปรับปรุงเล็กน้อย จำนวน ๒ หลักสูตร คือ ๑)หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๗ ๒)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๔ บัดนี้ ได้ผ่านการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๗ วันเสาร์ที่ ๒๑ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มติที่ประชุม รับทราบ
ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องเสนอเพื่อทราบ
ไม่มี
ระเบียบวาระที่ ๕ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา
๕.๑ การเสนอเพื่อพิจารณาการให้ปริญญาบัตร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒(๓) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ กำหนดให้สภาวิชาการ มีอำนาจและหน้าที่พิจารณาเสนอการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และประกาศนียบัตร
ด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนได้จัดทำบัญชีรายชื่อนักศึกษาที่เรียนครบหลักสูตร มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ เห็นควรสำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรและปริญญาบัตร ภาคการศึกษาที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ ซึ่งนักศึกษาดังกล่าวผ่านการพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติจากสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน และผ่าน การรับรองจากคณะกรรมการประจำคณะ ตลอดจนผ่านการรับรองความประพฤติจากกองพัฒนานักศึกษาเรียบร้อยแล้ว จึงนำเรียนเสนอกรรมการสภาวิชาการ เพื่อโปรดพิจารณาการให้ปริญญาบัตร สรุปได้ ดังนี้
ระดับปริญญาตรี จำนวน ๙๖ คน
ระดับประกาศนียบัตร จำนวน ๔ คน
ระดับปริญญาโท จำนวน ๒๖ คน
ระดับปริญญาเอก จำนวน ๑๐ คน
รวม ๑๓๖ คน
มติที่ประชุม เห็นชอบการให้ปริญญาบัตร ภาคการศึกษาที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติการให้ปริญญาต่อไป โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
๑. หน้า ๑๙๗-๑๙๘ ตรวจสอบลิ้งผลงานวิทยานิพนธ์ที่มีการเผยแพร่ให้สอดคล้องกับที่นำมาขอสำเร็จการศึกษา
๒. ขอให้ตรวจสอบสถานการณ์เผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาให้เป็นปัจจุบัน
๓. ขอให้นำผลการตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism) ของนักศึกษาเสนอให้สภาวิชาการได้ทราบ
๕.๒ การเสนอเพื่อพิจารณาหลักสูตรการศึกษา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอเสนอเพื่อพิจารณาหลักสูตรการศึกษา หลักสูตรปรับปรุง (ครบวงรอบ) จำนวน ๑ หลักสูตร หลักสูตรใหม่ จำนวน ๑ หลักสูตร และปิดหลักสูตรจำนวน ๒ หลักสูตร
๕.๒.๑ การพิจารณาหลักสูตรปรับปรุงตามวงรอบ
๕.๒.๑.๑ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษาหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๘
อาจารย์ ดร.พงศธร สุกิจญาณ นำเสนอ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ปรับมาจากหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๓ ปรับปรุงตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.๒๕๖๕ จากการวิเคราะห์ความต้องการของ stakeholders ได้ผลลัพธ์การเรียนรู้จำนวน ๖ ข้อ ดังนี้ PLO๑ ประยุกต์ความรู้ทางหลักการพลศึกษาและสุขศึกษา ในการปฏิบัติของสาขาวิชาชีพได้อย่างถูกต้อง PLO๒ วิพากษ์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและการจัดการเรียนรู้พลศึกษาและ สุขศึกษา เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพได้ PLO๓ ออกแบบและสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพลศึกษาและสุขศึกษาได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน PLO๔ ปฏิบัติการวิจัยทางพลศึกษาและสุขศึกษาการใช้โปรแกรมวิเคราะห์สถิติที่ใช้ในการวิจัย การเขียนรายงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง PLO๕ สื่อสารและนำเสนองานวิจัยทางพลศึกษาและสุขศึกษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ รู้ดิจิทัล รู้เท่าทันสื่อ และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ PLO๖ มีบุคลิก ลักษณะที่ดี น่าเชื่อถือ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม โครงสร้างหน่วยกิตตลอดหลักสูตร ๓๖ หน่วยกิต ประกอบด้วย หมวดวิชาเฉพาะ จำนวน ๒๔ หน่วยกิต แบ่งเป็นวิชาบังคับ ๑๘ หน่วยกิต วิชาเลือก ๖ หน่วยกิต วิทยานิพนธ์ ๑๒ หน่วยกิต และหมวดวิชาเสริม ไม่นับหน่วยกิต
กรรมการสภาวิชาการมีข้อเสนอแนะดังนี้
๑. อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ควรส่งเสริม สนับสนุนหรือโน้มน้าวให้นักศึกษาเผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์ในรูปแบบของบทความวิจัย เพื่อประโยชน์ของนักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษา
๒. หน้า ๑๓ การเขียน YLOs ข้อ 1.2 และ 1.3 ควรปรับคำที่สามารถวัดได้ เช่น ปรับคำว่า “มีความรู้ความเข้าใจ” เป็น “สามารถอธิบาย” และ YLO ข้อ 1.4 ระบุว่า “สามารถวิเคราะห์และวิพากษ์ งานวิจัยเกี่ยวกับพลศึกษาและสุขศึกษาได้อย่างถูกต้อง” สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อาจจะยังไม่สามารถวิเคราะห์และวิพากษ์งานวิจัยได้ เนื่องจากยังไม่ผ่านการเรียนเขียนรายงานการวิจัย ซึ่งจะได้เรียนในชั้นปีที่ 2
๓. YLO ข้อ 2.3 ระบุว่า “มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ” ควรปรับคำเป็น “การแสดงออกของการมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ” เพื่อการวัดและประเมินผลที่ชัดเจน
๔. ควรเพิ่ม YLO ที่สนับสนุนให้นักศึกษาสามารถเขียนบทความที่ได้จากงานวิจัยของตนเองได้
๕. YLO ข้อ 1.2 ระบุว่า “มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ พระราชบัญญัติการศึกษา” เมื่อตรวจสอบรายวิชา คำอธิบายรายวิชา ไม่พบว่ามีการผลักดันให้เกิด YLO ข้อ 1.2 รวมไปถึง PLO6 จรรยาบรรณนักวิจัยด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มได้ในรายวิชาวิทยานิพนธ์
๖. ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณา PLO6 ที่ระบุว่า “มีจรรยาบรรณวิชาชีพ จรรยาบรรณนักวิจัย มีบุคลิกลักษณะที่ดี น่าเชื่อถือ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม” ให้มีความสอดคล้องกับประเภทผลลัพธ์การเรียนรู้ในหน้า 14 และควรแยกเป็น PLO๖ เป็น 2 ข้อ
๗. หน้า ๓๗ ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างรายวิชากับมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2565 ให้ระบุเฉพาะความรับผิดชอบหลัก(จุดดำ) เท่านั้น
๘. หน้า 14 ตาราง 1.6.2 ความสอดคล้องระหว่างผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหลักสูตร ให้เพิ่มหมายเหตุระบุความหมายของตัวอักษร V, M, I, PH, SH1, SH2, SH3
๙. ควรเพิ่มข้อความที่เกี่ยวกับการวัดและประเมินผลของแต่ละรายวิชาต่อท้ายคำอธิบายรายวิชาทุกรายวิชา และได้เสนอแนะข้อความที่ควรใช้ไว้ในเล่มหลักสูตรที่คืนให้ไปแล้ว ให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณา
๑๐. รายวิชาวิทยานิพนธ์ควรเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับการเผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์ตามหลักจริยธรรมนักวิจัย และขอให้ตรวจสอบ PLOs ทุกข้อว่ามีรายวิชาที่ผลักดันครบ PLOs หรือไม่
๑๑. ภาษาอังกฤษได้เสนอแนะไว้ในเล่มหลักสูตรที่ส่งคืนกลับไปแล้ว ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรให้พิจารณาแก้ไข และควรแบ่งหน่วยกิตของรายวิชาวิทยานิพนธ์ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ ๑ เป็นการเรียนการสอนเพื่อให้ได้บทที่ 1-3 และส่วนที่ 2 คือบทที่ 4-5 และการเผยแพร่ผลงานวิทยานิพนธ์
๑๒. ขอให้ตรวจสอบและกำชับ ติดตามผลงานวิทยานิพนธ์ของอาจารย์ประจำหลักสูตรให้เป็นไปเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ.2565 พบว่าเมื่อเปิดจัดการเรียนการสอนไปได้ 1 ปีการศึกษาจะมีผลงานวิทยานิพนธ์ไม่อยู่ในวงรอบ 5 ปี
๑๓. รายละเอียดในเล่มหลักสูตรระบุมีการนำนักศึกษาไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ขอให้เพิ่มในแผนงบประมาณการดำเนินงานของคณะด้วย เนื่องจากถ้าไม่ระบุในแผนงบประมาณของคณะเมื่อถึงเวลาอาจจะไม่มีงบประมาณเพื่อพานักกศึกษาไปได้
๑๔. ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณาความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ของหลักสูตร PLOs และYLOs ให้ครบทุกประเด็น และใน YLOs ไม่พบข้อความที่ผลักดันวัตถุประสงค์ด้าน การสื่อสาร การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
๑๕. ขอให้พิจารณาปรัชญาของหลักสูตรว่าหลักสูตรได้มีส่วนในการพัฒนาผู้เรียนและสังคมอย่างไรบ้าง
๑๖. วัตถุประสงค์ของหลักสูตร PLOs และYLOs ควรมีรายวิชาที่ถูกผลักดันครบทุกประเด็น
๑๗. ตารางผลลัพธ์การเรียนรู้รายปี YLOs ควรเพิ่มคอลัมน์การวัดและการประเมินผล และตัวชี้วัดที่ระบุว่าการจัดการเรียนการสอนจะบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ได้อย่างไร
๑๘. หน้า ๓๓ ตารางการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร ควรปรับรายละเอียดในคอลัมน์การสอนที่ใช้พัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ และคอลัมน์การวัดและประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ ให้มีความแตกต่างกัน เนื่องเป็น PLO คนละข้อรูปแบบการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลไม่ควรเหมือนกัน
๑๙. หน้า 42 หมวด 8 การประกันคุณภาพหลักสูตรขอให้ปรับรายละเอียดฉบับล่าสุด
๒๐. หน้า 45 หมวดที่ 9 การประเมิน และปรับปรุงการดำเนินการของหลักสูตร ข้อ 1.1 การประเมินกลยุทธ์การสอน การระบุในข้อ 1.1.2 การสอบนักศึกษา ควรขยายข้อความให้สื่อถึงการประเมินการเรียนการสอนในห้องเรียน
๒๑. หน้า 106-107 ตารางเปรียบเทียบหลักสูตรเดิมกับหลักสูตรใหม่ พบว่า รายวิชาส่วนมากเป็นการปรับชื่อวิชาและรหัสวิชา แต่พบว่ามีการปรับคำอธิบายรายวิชาน้อยมาก จึงขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้ตรวจสอบความต้องการของผู้มีส่วนได้และปรับเพิ่มข้อความให้เป็นไปตามสมรรถนะที่ได้ระบุไว้ใน วัตถุประสงค์ของหลักสูตร และ PLO
มติที่ประชุม เห็นชอบการปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษาและสุขศึกษา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสภาวิชาการ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๒.๒ การพิจารณาหลักสูตรใหม่
๕.๒.๑.๑ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๘
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัชฎาภรณ์ แสงทามาตย์
นำเสนอ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ พัฒนาหลักสูตรใหม่เป็นไปตามตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2565 โดยหลักสูตรประกอบด้วยวิชาเอกจำนวน ๔ วิชาเอก คือ 1.การจัดการทรัพยากรมนุษย์ 2.การสื่อสารเพื่อธุรกิจ 3.การเป็นผู้ประกอบการ 4. เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ จากการวิเคราะห์ความต้องการของ stakeholders ได้ผลลัพธ์การเรียนรู้ ประกอบด้วย PLO จำนวน 16 PLO ของวิชาแกน PLO ที่ 1-4 PLO ที่ 5-7 เป็นของวิชาเอกการจัดการทรัพยากรมนุษย์ PLO ที่ 8-10 เป็นของวิชาเอกการสื่อสารเพื่อธุรกิจ PLO ที่ 11-13 เป็นของวิชาเอกการเป็นผู้ประกอบการ และ PLO ที่ 14-16 เป็นของวิชาเอกเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 1. มีความรู้ด้านการบริหารธุรกิจ และสามารถนำความรู้ไปบริหารงานวางแผนกลยุทธ์ จัดการทรัพยากรทางธุรกิจ และเป็นผู้ประกอบการเริ่มต้นได้ 2.มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือทางธุรกิจในการวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ทางธุรกิจ เพื่อการตัดสินใจภายใต้สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ 3.มีทักษะการสื่อสาร นำเสนอด้วยภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ และใช้เทคโนโลยีในการออกแบบและผลิตสื่อได้ 4.เป็นผู้ปฏิบัติงานอย่างมีคุณธรรม มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม 5.เป็นนักบริหาร นักวิเคราะห์ นักวางแผน นักการสื่อสาร และเป็นผู้ประกอบการที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงออก แก้ไขปัญหา เฉพาะหน้า พร้อมพัฒนาตนเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ ปรับตัวในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ โครงสร้างหน่วยกิตตลอดหลักสูตร ๑๒๐ หน่วยกิต ประกอบด้วย หมวดวิชาศึกษาทั่วไป จำนวน ๒๔ หน่วยกิต หมวดวิชาเฉพาะ จำนวน ๙๐ หน่วยกิต แบ่งเป็นวิชาแกน ๒๗ หน่วยกิต วิชาเอก ๖๓ หน่วยกิต หมวดวิชาเลือกเสรี ๖ หน่วยกิต
กรรมการสภาวิชาการมีข้อเสนอแนะดังนี้
๑. หน้า ๒ ข้อ ๕ รูปแบบของหลักสูตร ควรปรับจากหลักสูตรระดับปริญญาตรี ๓.๕ ปี เป็น ๔ ปี และปรับข้อความเป็น “ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2565”
๒. หน้า ๑๖ ตารางที่ ๓ แสดงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความเกี่ยวข้องกับหลักสูตรและสมรรถนะที่ต้องการ วิชาเอกการสื่อสารเพื่อธุรกิจ ตารางช่องความเกี่ยวข้องกับหลักสูตรได้มีการกล่าวถึงมาตรฐานวิชาชีพธุรกิจการประชุมและนิทรรศการ เมื่อพิจารณาข้อความใน PLO แล้วไม่พบการผลักดันเนื้อหาดังกล่าว
๓. ควรเพิ่มแผนการเรียนสำหรับนักศึกษาที่รับเข้าศึกษาแบบเทียบโอน
๔. ควรยุบรวม PLO เพื่อลดจำนวนข้อของ PLO และนำมาเขียนเป็น Sub PLO แทน
๕. รายวิชาทางด้านเศรษฐศาสตร์ ควรมีความร่วมมือกับ กลต.เพื่อให้ได้โควตาในการเข้าร่วมการอบรมที่จัดโดย กลต. โดยนักศึกษาที่ผ่านการอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตร
๖. หน้า ๗๗ รายวิชากฎหมายธุรกิจและการภาษีอากร ควรตัดชื่อวิชาและคำอธิบายรายวิชาให้คงเหลือเพียงกฎหมายธุรกิจ เพื่อลดความซ้ำซ้อนกับรายวิชาอื่น
๗. หน้า ๘๒ รายวิชาโปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ควรรวมกับรายวิชาการใช้แอปพลิเคชันเพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในยุคดิจิทัล เนื่องจากรายวิชาดังกล่าวสามารถให้นักศึกษาเข้าคอร์ดอบรมระยะสั้นได้ และรายวิชากฎหมายแรงงานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ควรเพิ่มเติมเนื้อหารายวิชาเกี่ยวกับกฎหมายการประกันสังคม
๘. หน้า ๙๔ การตลาดเบื้องต้นควรรวมกับรายวิชาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล
๙. ควรเพิ่มรายวิชาที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษา ในการสร้างธุรกิจ รวมไปถึงการสร้างธุรกิจจำลองในคณะบริหารธุรกิจเพื่อให้ผู้เรียนได้จำลองสร้างธุรกิจที่ตนเองอยากมี และยังใช้เป็นตัววัดและประเมินผล PLO ได้ด้วย
๑๐. ปรับรหัสวิชาให้มีความสอดคล้องกับการเรียนก่อนหลัง
๑๑. ควรปรับรายวิชาอินเตอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่งในงานธุรกิจ Internet of Things for Business เป็นรายวิชาเอกบังคับให้นักศึกษาทุกคนได้เรียน
๑๒. ขอเสนอแนะปรับชื่อวิชาเอกการสื่อสารเพื่อธุรกิจ ควรปรับเป็น การสื่อสารตราธุรกิจ เพื่อความทันสมัยมากขึ้น
๑๓. ในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันมีการมุ่งเน้นอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.สิทธิมนุษยชน 2.เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) 3.การดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม(ESG) จึงควรมีรายวิชาเอกเลือกที่รวมทั้ง 3 เรื่องนี้ไว้ด้วยกัน อาจใช้ชื่อวิชาเป็น Business and human right ในอนาคตมีความจำเป็นในภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก
๑๔. ขอให้คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณา PLO ที่เป็นของวิชาเอกย่อยทั้ง 4 เอก เนื่องจากน้ำหนักความยากง่ายของแต่ละเอกไม่เท่ากัน เนื่องจากเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้วนักศึกษาต้องมีความรู้ความสามารถในระดับเดียวกันจึงขอให้ตรวจสอบอีกครั้ง รายละเอียดในเล่มหลักสูตรที่ส่งคืนให้
๑๕. ขอให้ตรวจสอบ YLO ให้สามารถตรวจสอบหรือระบุความรู้ความสามารถของผู้เรียนตามลำดับขั้นที่ชัดเจนมากขึ้น และใน YLO ยังขาดรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกประสบการณ์
๑๖. ขอให้ทางคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรได้พิจารณาการระบุความรับผิดชอบหลักในตาราง KSEC และตารางรายวิชากับ PLO เพื่อให้เกิดการกระจายของความรับผิดชอบหลักในทุกด้าน
๑๗. การออกแบบรายวิชาเอกในแต่ละวิชาเอกทั้ง 4 วิชาเอก ควรมีความสอดคล้องกัน ไม่แตกต่างกันและไปในทิศทางเดียวกัน เช่น รายวิชาทางด้านภาษาอังกฤษ ควรมีทุกวิชาเอก หรือถ้าไม่มีก็ควรไม่มีในทุกวิชาเอก เพื่อไม่ให้นักศึกษาเกิดการเปรียบเทียบของรายวิชา และสมรรถนะของบัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้วควรมีสมรรถนะที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน
๑๘. ปรับปรัชญาของหลักสูตรให้ผู้อ่าน อ่านแล้วมีความเชื่อว่าหลักสูตรจะทำอะไร
๑๙. ไม่พบความร่วมมือกับเครือข่ายภายนอกที่จะสะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนเมื่อมาเรียนแล้วได้รับมาตรฐานเทียบเท่ากับหน่วยงานใด เช่น วิชาเอกทรัพยากรมนุษย์จะมีสมาคม PMAT ที่เป็นที่รู้จักในกลุ่มของกลุ่มงานบุคคลแห่งประเทศ หรือวิชาเอกการสื่อสารธุรกิจ มีสมาคมการสื่อสารการตลาดธุรกิจแห่งประเทศไทย เป็นต้น ต้องยอมรับว่าหลักสูตรต้องให้หน่วยงานที่เป็นเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์หลักสูตร จึงให้สร้างพลังหนุนจากเครือข่ายในการจัดการเรียนการสอนให้มากขึ้น
มติที่ประชุม เห็นชอบการปรับปรุงหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสภาวิชาการ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๒.๒ การเสนอเพื่อพิจารณาการปิดหลักสูตรแบบมีเงื่อนไข
๕.๒.๒.๑ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ (ปิดแบบมีเงื่อนไข)
ตามที่หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้เปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๙ เป็นต้นมา พบว่าจำนวนนักศึกษาใหม่และอัตราการคงอยู่ไม่เป็นไปตามแผน ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาตั้งแต่รหัสปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ มีนักศึกษาจำนวน ๗ คน รายละเอียดสถานะตามเอกสาร ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการใช้ศักยภาพของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จึงขอปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาบริหารทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ แบบมีเงื่อนไข โดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจะดูแลนักศึกษาทั้งด้านการจัดการเรียน การสอนและกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีคุณภาพ ตามคุณลักษณะที่หลักสูตรกำหนด จนกว่านักศึกษาจะสำเร็จการศึกษา จำนวน ๑ คน คือ รองศาสตราจารย์ ดร.สุรัชนี เคนสุโพธิ์
มติที่ประชุม เห็นชอบการปิดหลักสูตรแบบมีเงื่อนไข หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้นำเสนอ สภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๒.๒.๒ หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ
หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ปิดแบบมีเงื่อนไข)
ตามที่หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้เปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เป็นต้นมา ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาตั้งแต่รหัสปี ๒๕๖๓-๒๕๖๘ มีนักศึกษาจำนวน ๙๖ คน เนื่องด้วยจำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร คณะกรรมการบริหารหลักสูตรจึงขอปิดหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ แบบมีเงื่อนไข โดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจะดูแลนักศึกษาทั้งด้านการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมพัฒนานักศึกษาให้มีคุณภาพ ตามคุณลักษณะที่หลักสูตรกำหนด จนกว่านักศึกษาจะสำเร็จการศึกษา
มติที่ประชุม เห็นชอบการปิดหลักสูตรและมีเงื่อนไขของหลักสูตร ครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้นำเสนอสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
๕.๓ การเสนอเพื่อพิจารณาการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ (การประชุมลับ)
อาศัยอำนาจตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ว่าด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๐ ข้อ ๑๖.๑ (๖) ให้สภาวิชาการพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์และรองศาสตราจารย์แล้วเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย และข้อ ๑๖.๒ การแต่งตั้งตำแหน่งศาสตราจารย์
โดยที่คณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ เมื่อคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๗ วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๗ ได้สรุปผลการประเมินของผู้ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ จึงนำเสนอต่อกรรมการสภาวิชาการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์ (รายละเอียดตามเอกสารแยกเล่ม)
มติที่ประชุม เห็นชอบผลการพิจารณาการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ จำนวน ๒ คน นำเสนอสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
ระเบียบวาระที่ ๖ เรื่องอื่น ๆ
เลิกประชุมเวลา ๑๑.๔๐ น.